วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

แต่งหน้ารับวาเลนไทม์

              วาเลนไทม์นี้สาวๆหลายคนคงมีนัดเดสกัน วันนี้จึงมีวิธีการแต่งหน้าให้สาวๆสวยแบบหวาน... ด้วยวิธีการแต่งหน้าโทนสีชมพูหวาน

ผิว : เริ่มจากการปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสก่อน โดยการทามอยส์เจอไรเซอร์ให้ผิวชุ่มชื่น หากผิวดีอยู่แล้ว จะใช้แค่ครีมปรับสภาพผิวชนิดเบาบาง จากนั้นใช้รองพื้นแต้มหาจุดทั่วใบหน้า เกลี่ยเบา ๆ ให้ทั่ว จากนั้นใช้คอนซีลเลอร์เนื้อเนียนเพื่อช่วยลดรอยหมองคล้ำใต้ตา ตามด้วยแป้งฝุ่นกดทับให้ทั่วใบหน้า เพื่อทำให้แป้งติดทนนานได้ตลอดทั้งวัน

การไล้เชิดดิ้ง : ไล้เชดดิ้งสามเฉดสีผสมกันบนใบหน้า เพื่อช่วยสร้างเงาสันจมูกให้ดูโด่งสวย สร้างความลึกให้ช่วงแก้ม บริเวณไรผม รวมถึงช่วงคอและไหล่เพื่อเชื่อมสีผิวให้กลมกลืนกัน

 
ตา
: ใช้อานแชโดว์สีเงิน หรือสีขาวมุกระบายทั่วเปลือกตา เพื่อให้เบ้าตาเป็นเงาดูมีน้ำหนัก ไล้เปลือกตาโดยเน้นจากหัวตาไปหางตา และไล้สีเข้มให้ขอบตาล่าง ทิ้งไว้สักพักรอให้แห้ง แล้วปัดขนตาอีกรอบเพื่อให้ขนตาดูยาว หนาขึ้น และเป็นธรรมชาติ

คิ้ว : ใช้แปรงปัดคิ้วแตะอายแชโดว์โทนสีน้ำตาล ใช้ 3 เฉดสีไล่โทนสีให้ทั่วหัวคิ้วเป็นสีน้ำตาลอ่อน ส่วนปลายคิ้วให้เป็นสีน้ำตาลเข้ม

แก้ม : ไล้โหนกแก้มด้วยบลัชออนโทนสีชมพูหรือสีพีช จากโหนกแก้มปัดขึ้นออกไปด้านข้าง

ริมฝีปาก : การทาเรียวปากให้ดูเซ็กซี่ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องบำรุงเรียวปากให้ชุ่มชื้นก่อนด้วนลิปบาล์ม เพราะเรา
ต้องการเผยสีให้เรียบเนียนระเรื่อ จากนั้นใช้ดินสอเขียน
 

ขอบปากวาดเส้นตามขอบปากด้านใน    โทนสีที่ใช้เป็นสีชมพูอมม่วงเข้ม ก่อนปิดท้ายด้วยลิปบาล์มหรือ
กลอสสีใสทับบางๆ อีกครั้ง

เพราะโทนสีชมพูเป็นสีความงามที่คลาสสิก มักจะมาแรงเสมอในช่วงหน้าหนาว และยังเป็นโทนสสีซึ่งเหมาะกับภาพลักษณ์ของความเป็นหญิงสาวหวานผู้ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติ แต่งให้ดูโดดเด่นได้ไม่ยาก ถึงแม้หลายๆ คนจะรู้ว่าชมพูจะเหมาะกับสาวผิวขาว แต่สาวผิวสีเข้มก็สามารถใช้โทนสีนี้ได้ ด้วยการใช้สีชมพูอมส้ม หรือสีพีซ อมชมพูเท่านี้ก็สามารสวยหวานไม่แพ้สาวผิวขาวได้เช่นกัน

แต่งหน้าโทนสีชมพูหวานกันแล้ว  ขอให้ความรักหวาน.....เหมือนหน้านะคะ โชคดีกันทุกคนคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://เว็บชมพู.com/index.php?topic=3.0

วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554

แต่งตาให้เฉียว ดูเซ็กซี่

        

          อย่างที่ได้กล่าวมาแล้วนะคะว่า การแต่งตาบอกถึงลุคของคุณ สำหรับใครที่อยากมีลุคที่ดูเฉียว เซ็กซี่ วันนี้จึงมีเทคนิคการแต่งตาเฉียว แบบแมวเหมียวเซ็กซี่มาฝากคะ


         ขั้นตอนที่ 1 แต่งเปลือกตาให้เนียน ต้องลงอายเบสก่อนเป็นอันดับแรก อายเบสจะทำให้เปลือกตาของคุณดูเนียนเรียบ ลงอายแชโดว์ได้ง่าย แถมยังทำให้อายแชโดว์ติดทนนานไปตลอดวันอีกด้วยนะคะ

          ขั้นตอนที่ 2 กรีดอายไลเนอร์ ใช้อายไลเนอร์สีดำหรือน้ำตาลเข้มจุดบนเปลือกตา เพื่อกำหนดขอบเขตของเส้นก่อน จากนั้นค่อย ๆ กรีดด้วยมือนิ่ง ๆ แล้วตวัดปลายเส้นให้แหลมดังรูปจนได้ตาแมวตามต้องการ สาว ๆ ใจเย็น ๆ นะคะขั้นตอนนี้ ถ้าหากกรีดหนาเกินไปให้ใช้คอตตอนบัดจุ่มเมกอัพรีมูฟเวอร์แล้วค่อย ๆ ลบส่วนที่ไม่ต้องการออกค่ะ

          ขั้นตอนที่ 3 ลงอายแชโดว์ งานนี้ขออายแชโดว์ซัก 2-3 สีค่ะ เพื่อทำให้ดวงตาของคุณมีมิติสะดุดตา โดยเลือกเฉดสีเดียวกันนะคะ เช่น ชมพูอ่อน ชมพู และม่วง อย่างนี้เป็นต้น แล้วค่อย ๆ ลงอายแชโดว์สีเข้มบริเวณเบ้าตาก่อน จากนั้นไล่สีให้อ่อนลงเรื่อย ๆ บริเวณเปลือกตา

          ขั้นตอนที่ 4 ตามด้วยมาสคาร่า เอาล่ะค่ะ เมื่อทาเปลือกตาเสร็จแล้วก็ปัดมาสคาร่าได้เลย โดยเลือกใช้มาสคาร่าสีดำหรือน้ำตาลที่ช่วยให้ขนตายาวขึ้น หรือบางคนอาจใช้วิธีปัดมาสคาร่าเพิ่มความยาวขนตาก่อน แล้วค่อยลงตัวที่เพิ่มความหนาอีกที อ้อ เสร็จแล้วอย่าลืมหวีขนตาด้วยนะคะ เพื่อให้ขนตาไม่ติดกันเป็นแผงจนทำให้ขนตาดูแข็งเกินไปนั่นเอง

          และสำหรับสาว ๆ ที่ชอบติดขนตาปลอม จะบอกว่าสไตล์การแต่งหน้าแบบนี้เหมาะกับขนตาปลอมเป็นอย่างยิ่งค่ะคุณ ๆ เพราะฉะนั้น หยิบขนตาปลอมขึ้นมาติดกาวแล้วติดลงให้ชิดแนวขนตาไปเลยค่ะ สวยสมบูรณ์แบบกันแล้วล่ะคราวนี้


           ใครที่อยากดูเฉียว แบบแมวเหมียวเซ็กซี่ก็ลองนำไปแต่งดูนะคะ อาจดูง่ายๆแต่ก็ต้องใช้ความพยายามนิดหน่อย เชื่อนะคะว่าคงไม่ยากจนเกินทำ

ขอบคุณข้อมูลจาก http://women.kapook.com/view11881.html
ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.dek-d.com/

วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

แต่งตาให้กลมโต แบ้วๆ

สำหรับเทคนิคการแต่งหน้าที่นำมาฝากคือ การแต่งตาให้กลมโต การแต่งตาถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการแต่งหน้าเลยก็ว่าได้ เพราะดวงตาบอกถึงลุคหรือตัวตนของคุณ การแต่งตาให้กลมโตนั้นจะทำให้คุณดูสดใสน่ารัก และดูไม่แก่เกินวัยคะ  

ขั้นตอนการแต่งตาให้กลมโต
1.  ทาอายไลเนอร์ (Pencil Eye liner)  ใต้ขอบตาล่างทั้งสองข้าง
2.  เช็ดส่วนเกินจากการเขียนขอบตา ด้วยสำลีก้าน
3.  แต่งแต้มเปลือกตาด้วยสีทองครีมเพื่อเพิ่มความสว่างให้ทั่วเปลือกตา
4.  ลงสีทาตาสีเงิน บริเวณใต้คิ้วทั้งสองข้าง
5.  ใช้สีทาตาสีเดิม (สีเงิน) ทาบริเวณหัวตาด้วยสำลีก้าน
6.  ปัดเอาส่วนที่เกินออกโดยใช้แปรงปัดขนาดเล็ก
7.  เขียนขอบตาด้วยอายไลเนอร์ชนิดน้ำเส้นเล็ก (Liquid Eye liner)  ลากจากกลางขอบตาไปทางตา และหัวตากลับมายังกลางตา อย่างบรรจง
8.  ทาคิ้วด้วยสีน้ำตาลอ่อนและใช้พู่กันปัดซ้ำอีกครั้ง
9.  ดัดขนตาด้วยที่ดัดขนตา
10.  ปัดมาสคร่าขนตาบน  โดยใช้กระดาษแผ่นเล็กๆ บังไว้หลังขนตาเพื่อป้องกันการเปื้อน
11.  ปัดมาสคร่าขนตาล่าง โดยใช้มือช่วย
12. ใช้สำลีก้าน เช็ดเอาส่วนเปื้อนออก

สำหรับใครที่อยากให้ตัวเองดูใสๆ แบ้วๆละก็ลองนำเทคนิคนี้ไปแต่งดูนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.siamhealthandbeauty.com/

วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554

ใสๆสไตล์เกาหลี


รู้เทคนิควิธีการแต่งหน้าสไตล์เกาหลีกันแล้ว ลองไปแต่งกันบ้างยังคะ
วันนี้เรามีตัวอย่างสาวๆเกาหลีที่แต่งหน้าไม่จัดมากแต่ดูดีแบบใสๆอินแทรนๆ มาฝากกันนะคะ

เริ่มกันที่คนแรก คนนี้ชื่อ Bang so myung

ต่อไปเป็น Jung ju ah






Do hwe ji


Ban nam gyu

เป็นไงบ้างคะ รูปสาวเกาหลีที่เอามาฝาก น่าร๊ากกกกกกทุกคนเลยใช่มั้ยคะ
                สังเกตได้ว่าการแต่งหน้าสไตล์เกาหลีจะเน้นไปที่ดวงตา โดยแต่งให้ดวงตาดูกลมโต ดูใสๆ แบ้วๆ แก้มและริมฝีปากก็ไม่เด่นมากพอจางๆ อีกอย่างนะคะ เครื่องสำอางที่ใช้ควรมีวิ้งๆด้วยนะคะ เพราะจะทำให้ดูมีมิติคะ
ขอบคุณรูปสวยๆจาก  http://www.dek-d.com/  (dek-d korea ulazzang)

วันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

แต่งหน้าสไตล์เกาหลี



     
    
                 เนื่องจากกระแสความนิยมเกาหลีได้เข้ามามีบทบาทในบ้านเรามากขึ้น การแต่งหน้าสไตล์เกาหลีก็เป็นแทรนด์อีกอย่างหนึ่งที่นิยมกันมากในกลุ่มวัยรุ่น โดยส่วนตัวก็สนใจการแต่งหน้าสไตล์เกาหลีอยู่แล้ว เนื่องจากการแต่งหน้าสไตล์เกาหลีเป็นการแต่งหน้าที่ดูเป็นธรรมชาติเหมาะกับวัยรุ่น คือเน้นการแต่งหน้าแบบใสๆ ง่ายๆ และสามารถทำได้ด้วยตัวเอง  หากใครอยากมีใบหน้าใสๆ ดูเป็นธรรมชาติ ตามสไตล์เกาหลีให้ดูอินแทรนด์ก็ลองนำเทคนิคที่นำมาฝากนี้ไปแต่งดูนะคะ


   จุดเด่น ของการแต่งหน้าสไตล์ธรรมชาติ คือ การแต่งหน้าในแบบที่แต่งหน้าแล้วแต่ดูสวยใสราวกับไม่ได้แต่งหน้า ซ้ำยังสามารถปกปิดจุดด้อย และเสริมสร้างจุดเด่นบนใบหน้าให้สวยขึ้นได้อีก สังเกตได้จากสไตล์การแต่งหน้าของ “ชงเฮเคียว” นางเอกจากซีรีส์เกาหลีเรื่อง “Full house” และ “ลียองเอ” นางเอกจากเรื่อง “แดจังกึม” ในละครและหนังของเกาหลี จะเห็นได้ว่านางเอกเหล่านี้ไม่ได้แต่งหน้ามาก แต่สามารถออกมาสวยและเป็นธรรมชาติมากๆ
        ข้อควรระวัง ของการแต่งหน้าสไตล์นี้ คือ การแต่งหน้านั้นไม่ใช่การโชว์สีที่ใบหน้า แต่การแต่งหน้านั้นเพื่อทำให้เราสวยขึ้นและทำให้เราดูเด็กลง


    รองพื้น ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดสำหรับการแต่งหน้าสไตล์ไทยและการแต่งหน้าสไตล์เกาหลี คือ การลงรองพื้น และการเขียนคิ้ว ซึ่งการแต่งหน้าสไตล์ Natural Make-up นั้น การลงรองพื้น และการเขียนคิ้ว ถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ถ้าเราลงรองพื้นและเขียนคิ้วเสร็จแล้ว ถือได้ว่าเราแต่งหน้าเสร็จไปแล้ว 70%


        การลงรองพื้นให้เลือกตามสีผิวของเราเอง (อย่าลงให้ขาวเว่อร์เกินสีผิวจริง) ต้องลงรองพื้นให้เบาบางที่สุด และใช้คอนซิลเลอร์ปกปิดแค่ส่วนที่เราอยากจะปกปิดเท่านั้น เช่น สิว ฝ้า กระ รอยจุดด่างดำ แผลเป็น จะทำให้หน้าดูเบาบางกว่าการที่เราจะลงรองพื้นหนาๆ และให้กดเยอะๆ นานๆ เพื่อทำให้เครื่องสำอางอยู่ทนติดหน้าเราได้ทั้งวัน


    การเขียนคิ้ว แต่ละคนจะมีรูปคิ้วที่แตกต่างกัน คนเกาหลีนิยมเขียนคิ้วตามรูปคิ้วจริงๆ (จึงมองดูคิ้วหนา) ต่างจากคนไทยที่นิยมเขียนคิ้วแบบคันศร (เป็นเส้นเดียวยาวโค้ง) การเขียนคิ้วควรใช้ดินสอเขียนคิ้ว (Ebony Pencil) สกรูว์บรัช, และ แชโดว์บรัช ในการเขียนคิ้ว เพื่อจะทำให้คิ้วออกมาดูเป็นธรรมชาติ เวลาเขียนคิ้วพยายามอย่าให้โหนกคิ้วสูงจนเกินไป ทำให้รู้สึกนุ่มมากที่สุด
        ข้อควรระวัง การใช้ดินสอเขียนคิ้วที่มีส่วนของน้ำมันผสมอยู่ จะทำให้คิ้วดูเข้มและไม่เป็นธรรมชาติ



    อายแชโดว์ ควรลงรองพื้นให้เข้ากับโทนสีผิวของตัวเองก่อน หลังลงรองพื้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้สีชมพูเป็นพอยต์ (Point) เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่สว่างและเพิ่มส่วนที่เป็นไฮไลต์ โดยใช้แชโดว์ที่เป็นมุกจะให้ความรู้สึกที่ดูใส สว่าง ข้อสำคัญสาวเกาหลีจะเขียนขอบตาเฉพาะขอบตาบน
        ข้อควรระวัง อย่าใช้สีมากเกินไป เพราะจะทำให้ดูเชย ไม่ทันสมัย ที่สำคัญแลดูไม่เป็นธรรมชาติ หากจะเล่นสีที่ตานิยมใช้โทนสีพาสเทล



    ลิปสติก การทาลิปนั้นไม่ต้องเน้นลิปไลน์มาก ควรทาลิปที่เป็นโทนสีแดงทาแค่ในปากเท่านั้น จะทำให้รู้สึกว่าริมฝีปากสว่าง สดใสขึ้น และให้ใช้ลิปกลอสทาตั้งแต่ริมฝีปากข้างในจนถึงข้างนอกให้แลดูเป็นธรรมชาติ
        ข้อควรระวัง อย่าทาลิปกลอสในปริมาณที่มากเกินไป เพราะจะดูเหมือนว่าเพิ่งผ่านการรับประทานอาหารที่มันๆ มา


    บลัชออน การปัดแก้มควรใช้บลัชออนสีชมพูที่เป็นธรรมชาติปัดบนส่วนที่เป็นโหนกแก้ม (โดยลองยิ้มดูแล้วปัดตรงส่วนที่นูนขึ้นมามากที่สุด) แต่อย่าทามากเกินไป เพราะจะทำให้รู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ

ขอบคุณข้อมูลจาก Post Today

        ขอเพิ่มอีกนิดนะคะ ถ้าใส่ Big eye ให้ตากลมโตขึ้นก็จะดูแบ๊วๆๆ  สไตล์เกาหลีอีกนิดนะจ๊ะ
ส่วนถ้าออกงานก็สามารถแต่งหน้าได้เองคือ  อาจจะเพิ่มลายเนอร์เป็นประกายที่เปลือกตา ขนตางอนกว่าเดิมได้ เพื่อสร้างลูกเล่นจร้า...